ทำไมเมื่อดอกเบี้ยขึ้น มูลค่าตราสารหนี้เดิมลดลง
การไม่ใช้เงินหรือเก็บเงินไว้เฉยๆ ไม่ต้องเล่นพนัน สล็อต777 หรืออะไรก็เสี่ยง อย่างนึงเป็นเพราะเรื่องเงินเฟ้อ แต่ก่อนเรามาดูการลงทุนพื้นฐานกันก่อน ก็คือตราสารหนี้ ที่เป็น เอกสารแสดงสิทธิเกี่ยวกับหนี้ เหมือนคนมาขอกู้เงินเรา ให้เอกสารสัญญาเงินกู้ไว้ ซึ่งในนั้นจะระบุว่า เขาจะจ่ายดอกเบี้ยเรายังไง และจะคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดสัญญา ถ้ารัฐมาขอกู้เงินเรา และให้ตราสารหนี้กับเราไว้ เราเรียกตราสารหนี้อันนั้นว่า “พันธบัตรรัฐบาล” แต่ถ้าเอกชนมาขอกู้เงินเรา เราเรียกตราสารหนี้อันไหนว่า “หุ้นกู้” ซึ่งปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อผลตอบแทนของตราสารหนี้ คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เรามักจะเคยได้ยินว่า “เมื่อดอกเบี้ยขึ้น ผลตอบแทนตราสารหนี้เพิ่ม แต่ราคาพันธบัตรและหุ้นกู้เดิมจะลดลง ส่วนถ้าดอกเบี้ยลง ก็จะส่งผลในทิศทางตรงข้าม” เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกมาใหม่ก็จะได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น
ดังนั้นพันธบัตร หรือหุ้นกู้ที่เราถืออยู่ก่อนหน้า ถ้าได้ดอกเบี้ยน้อยกว่าดอกเบี้ยใหม่ ถ้าเราจะซื้อหรือขาย ก็จะซื้อหรือขายตราสารหนี้เก่านั้นในราคาที่ถูกลง เช่น ถ้าเราลงทุนตราสารหนี้ 100,000 บาท ในตราสารหนี้อายุ 10 ปี จ่ายอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (coupon) 3% ต่อปี ต่อมาอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกมาใหม่ ได้ดอกเบี้ยลดลงเป็น 4% ต่อปี ทำให้ตราสารหนี้รุ่นที่เราถืออยู่และจ่ายดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ 3% ดูน่าสนใจน้อยลง เพราะให้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตราสารหนี้รุ่นใหม่ที่ออกมา ซึ่งถ้าเราอยากจะขายตราสารหนี้ที่เราถืออยู่เดิมออกมา ก็ต้องลดราคาขายให้ต่ำลง เพื่อชดเชยผลตอบแทนให้กับคนซื้อเพื่อให้เทียบเคียงได้กับอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทำไห้ผลตอบแทนที่ได้จากตราสารหนี้นั้นลดลง เพราะผลตอบแทนของตราสารหนี้คือ ดอกเบี้ยที่เราได้รับจากการถือตราสารนั้น แต่ราคาตราสารหนี้เดิมจะเพิ่มขึ้น เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง ตราสารหนี้ที่เรามีอยู่เดิมได้ดอกเบี้ยดีกว่าดอกเบี้ยใหม่ที่ประกาศ ก็ทำให้ถ้าเราขายตราสารหนี้นั้นออกมาก็จะขายได้ราคาสูงขึ้น
“ดอกเบี้ยขึ้น ผลตอบแทนตราสารหนี้เพิ่ม แต่ราคาพันธบัตรและหุ้นกู้เดิมจะลดลง” แต่ถ้าเราถือตราสารหนี้จนครบกำหนดอายุ เราก็จะได้รับดอกเบี้ยตามที่เขากำหนดไว้ และได้รับเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดอายุสัญญา เช่น ถ้าเราลงทุนพันธบัตรรัฐบาล มูลค่าของตราสารที่เราถืออยู่อาจเปลี่ยนแปลงขึ้นลงระหว่างทางได้ถ้าเราขายออกมาระหว่างทาง แต่ถ้าเราไม่ได้ขาย เราถือไปเรื่อยๆ เราก็จะได้ดอกเบี้ยตามที่เขากำหนดไปเรื่อยๆ และถือจนครบกำหนดย่อมได้รับเงินต้นคืนครบตามราคาพาร์หรือมูลค่าหน้าตั๋ว
ส่วนถ้าเราลงทุนตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมนั้นองทุนมีการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(NAV) โดยใช้ราคาตลาด (Mark to market) ทุกสิ้นวันทำการ จึงทำให้ NAV ของกองทุนผันผวนขึ้นลงได้ ถึงแม้กองจะยังไม่ได้ขายตราสารหนี้อันนั้นออกมา